คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมเสนาวิชาการเรื่อง "ทะเลสีเขียว...มหันภัยร้ายกว่าที่คิด"  จึงจัดโดยสำนักงานนวัตกรรมและพันธกิจเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ   ในวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2566  ณ ห้องประชุมอดุลย์วิทย์ อาคารสารนิเทศ 50 ปี  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยนำผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มารวมตัวกันอธิบายให้สังคมทราบ อาทิ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ศ.ดร.เชษฐ์พงษ์ เมฆสัมพันธ์ และผศ.ดร.ธนัสพงษ์ โภควนิช อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง เป็นวิทยากร  รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญจากกรมทะเลและกรมควบคุมมลพิษด้วย ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เข้าร่วมเสวนาทราบถึงปัญหาแพลงตอนบลูมและออกซิเจนต่ำที่คร่าชีวิตสัตว์น้ำและสร้างความเสียหายให้กับระบบนิเวศ เศรษฐกิจและสังคม คุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างเรื้อรัง  และเพื่อสร้างแรงกระเพื่อมต่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน

                  ภาพการร่วมเป็นวิทยากรของคณะประมงในการเสวนาวิชาการเรื่อง "ทะเลสีเขียว...มหันภัยร้ายกว่าที่คิด"   ในวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2566 
                  ณ ห้องประชุมอดุลย์วิทย์ อาคารสารนิเทศ 50 ปี  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 

 


ภาพการนำเสนอข้อมูลในงานเสนาวิชาการเรื่อง "ทะเลสีเขียว...มหันภัยร้ายกว่าที่คิด"   ในวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2566  ณ ห้องประชุมอดุลย์วิทย์ อาคารสารนิเทศ 50 ปี  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 

นอกจากผศ.ดร.ธรณ์ยังกล่าวถึงโลกร้อน ทำแพลงตอนบลูมเกิดบ่อย น้ำเขียวส่งผลกระทบสัตว์น้ำ ระบบนิเวศ  วันที่ 12 สิงหาคม ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก อธิบายเรื่อง การเกิดแพลงตอนบลูม ที่ชายหาดบางแสน 

แพลงก์ตอนบลูมเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ เกิดขึ้นจากธาตุอาหารลงทะเลมากในหน้าฝน บางจังหวะมีแดดแรง กระบวนการในทะเลเหมาะสม ทำให้แพลงตอนพืชเพิ่มเร็ว มนุษย์มีส่วนเกี่ยวข้องเพราะเราเพิ่มธาตุอาหารลงไป ทั้งการเกษตร น้ำทิ้ง ฯลฯ

แพลงตอนบลูมเริ่มก่อตัวในทะเลนอก และขยายจำนวนขึ้น จนเข้าสู่ระยะสุดท้ายบริเวณชายฝั่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ พัดน้ำเข้าไปรวมที่อ่าวไทยตอนในแถวชลบุรี ทำให้น้ำเขียวรวมตัวอยู่แถบนั้น ระยะสุดท้ายของแพลงตอนบลูมจะเกิดเพียงช่วงสั้นๆ ไม่กี่วัน จากนั้นจะหมดไป แต่อาจเกิดขึ้นใหม่ตามลมที่พัดพามวลน้ำเข้ามา

ยังมีปรากฏการณ์แพลงตอนบลูมที่เกิดตามปากแม่น้ำได้อีกด้วย แต่สุดท้ายลมในช่วงนี้ก็พัดไปรวมที่ชายฝั่งชลบุรี เมื่อถึงช่วงปลายปี ลมมรสุมเปลี่ยนทิศ แพลงตอนบลูมแถวชลบุรีอาจลดลง แต่ปีหน้าก็อาจกลับมาใหม่ตามลมมรสุม

โลกร้อนอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับแพลงตอนบลูม ตามการศึกษาต่างประเทศที่พบว่าน้ำเขียวทั่วโลกเกิดถี่ขึ้นเรื่อย และขยายพื้นที่ไปในบริเวณต่างๆ ของโลก

เราวัดคลอโรฟิลล์ในผิวหน้าน้ำทะเลได้โดยใช้ดาวเทียม แต่ต้องทำเป็นระบบและติดต่อเป็นประจำ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง หากเราเข้าใจกระบวนการทางสมุทรศาสตร์เพิ่มขึ้น เช่น วัดกระแสน้ำ คุณภาพน้ำแบบเรียลไทม์ ฯลฯ เราจะเริ่มมีความสามารถในการทำนายและแจ้งเตือน 
น่าเสียดายที่สถานีวัดสมุทรศาสตร์แบบดังกล่าวตอนนี้มีเฉพาะที่ศรีราชา เป็นความร่วมมือระหว่างคณะประมง มก./สสน.

#อ่านข่าวเพิ่มเติม ...